เมื่อคุณซื้อรถใหม่หรือรถมือสองที่ยังไม่มีทะเบียน การขอทะเบียนรถใหม่เป็นขั้นตอนสำคัญที่ต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย กระบวนการนี้สามารถทำได้ที่กรมการขนส่งทางบกหรือสำนักงานขนส่งในพื้นที่ที่คุณอยู่
ขั้นตอนการขอทะเบียนรถใหม่
1. เตรียมเอกสารที่จำเป็น
การเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ขั้นตอนการยื่นเรื่องดำเนินไปอย่างราบรื่น โดยเอกสารที่ต้องใช้มีดังนี้:
- สำเนาบัตรประชาชนของเจ้าของรถ
- สำเนาทะเบียนบ้านของเจ้าของรถ
- หลักฐานการซื้อรถ (สัญญาซื้อขาย, ใบเสร็จรับเงิน, หรือใบกำกับภาษี)
- ใบรับรองมาตรฐานตัวรถยนต์ (จากผู้จำหน่าย)
- หนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล (กรณีที่ผู้ซื้อเป็นนิติบุคคล)
- เอกสารเกี่ยวกับการเสียภาษีและประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.)
- หลักฐานการเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 7% (กรณีที่ซื้อรถจากผู้จำหน่าย)
2. นำรถเข้าตรวจสภาพ
- รถยนต์ต้องผ่านการตรวจสภาพที่กรมการขนส่งทางบกหรือตัวแทนที่ได้รับอนุญาต
- การตรวจสภาพจะเน้นการตรวจหมายเลขตัวถัง, หมายเลขเครื่องยนต์, และความปลอดภัยของรถ
3. ยื่นคำร้องขอจดทะเบียน
- กรอกแบบฟอร์มคำร้องขอจดทะเบียนรถ (แบบฟอร์มสามารถขอได้ที่สำนักงานขนส่ง)
- ยื่นเอกสารและแบบฟอร์มที่กรอกเสร็จให้เจ้าหน้าที่
4. ชำระค่าธรรมเนียม
ค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนรถใหม่ประกอบด้วย:
- ค่าจดทะเบียน (ประมาณ 1,500-3,000 บาท ขึ้นอยู่กับประเภทรถยนต์)
- ค่าป้ายทะเบียนรถ
- ค่าธรรมเนียมอื่นๆ (เช่น ค่าอากรแสตมป์)
5. รอรับป้ายทะเบียนและสมุดคู่มือจดทะเบียน
- หากเอกสารครบถ้วนและถูกต้อง เจ้าหน้าที่จะดำเนินการออกป้ายทะเบียนและสมุดคู่มือจดทะเบียนรถให้
- ระยะเวลาขึ้นอยู่กับสำนักงานขนส่งและช่วงเวลา อาจใช้เวลา 1-2 สัปดาห์
ข้อควรรู้เกี่ยวกับการจดทะเบียนรถใหม่
- ป้ายทะเบียนชั่วคราว
- ระหว่างรอป้ายทะเบียนใหม่ คุณสามารถใช้ป้ายทะเบียนชั่วคราว (ป้ายแดง) ซึ่งต้องปฏิบัติตามข้อกำหนด เช่น การบันทึกข้อมูลการใช้รถ
- การเลือกเลขทะเบียน
- หากต้องการเลขทะเบียนเฉพาะหรือเลขมงคล คุณสามารถยื่นขอได้ โดยอาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม
- การต่อภาษีและ พ.ร.บ.
- หลังการจดทะเบียนเรียบร้อย อย่าลืมต่อภาษีรถยนต์และ พ.ร.บ. ตามกำหนด
การขอทะเบียนรถใหม่เป็นกระบวนการที่สำคัญ หากเตรียมเอกสารและดำเนินการตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง คุณจะสามารถใช้งานรถยนต์ได้อย่างถูกกฎหมายและปลอดภัย!
